วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ลูกชุบโกอินเตอร์

ขนมลูกชุบแบรนด์สุพัตรา
ขนมไทยไฮโซ
จับกลุ่มพรีเมี่ยมต่อยอดสู่สากล
   " ผู้บริโภคจะสะดุดตากับความสวยงามของรูปลักษณ์ภายนอกและเมื่อได้ทานก็จะยิ่งยอมรับในรสชาติและสัมผัสได้ถึงความประณีตในการผลิต จุดนี้เองจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ขนมลูกชุบสุพัตราขึ้นมาเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค และถูกปากชาวต่างชาติที่ไม่นิยมทานขนมไทย เพราะปกติขนมไทยจะมีรสชาติหวาน ทำให้บางคนที่ทานหวานไม่ได้หรืองดของหวานจะไม่นิยมทาน เราจึงจับความต้องการเหล่านี้มาปรับสูตรปรุงรสชาติให้อ่อนหวานลง ทำให้รสชาติของลูกชุบสุพัตรามีความกลมกล่อมยิ่งขึ้น "
  ด้วยรสชาติที่โด่ดเด่นและฝีมือที่ประณีต รวมไปถึงรสจและชักชวนให้ไปแสดงงานที่ประเทศจีน 2 ครั้งและประเทศญี่ปุ่นก็ได้รับความสนใจไม่แพ้ประเทศจีน
                                                                               
การวิเคราะห์ตลาด "ขนมลูกชุบ"
จุดแข็ง (Strength)
1. มีความรู้ – ความสามารถเฉพาะตัวในการผลิตขนมไทยได้พัฒนาริเริ่มสร้างสรรค์ของใหม่อยู่เรื่อยๆ
2. ทีมงานเข้มแข็งร่วมกันรับผิดชอบ ไม่ให้เกิดความผิดพลาด
3. มีฐานลูกค้าเก่าสมัย ที่เป็นคนไทยในประเทศจีนที่ชื่นชอบขนมไทย
4. มีฐานลูกค้าใหม่ เช่น โรงแรมต่างๆในประเทศจีน
5. ลูกค้าส่วนใหญ่ให้ความเชื่อถือ เพราะเป็นฝีมือของคนไทยโดยตรง

จุดอ่อน (Weakness)
1. บางครั้งวัตถุดิบ เช่น ใบเตย ใบตอง เก็บไว้ได้ไม่นาน
2. บรรจุภัณฑ์ ยังไม่ดีพอ
3. ขนมไทย บางอย่างเก็บไว้ไม่ได้นาน
4. การผลิตขนมสดใช้ฝีมือประณีต จึงรับลูกค้าได้จำนวนจำกัด
โอกาส(Opportunost)
1. มีการออกแบบแพ็คเก็จเหมาะสมกับวาระเทศกาลต่างๆ
2. ในเทศกาลต่างๆ : วันปีใหม่ ประเพณีปฏิบัติให้ส่วนลด
3. มีรูปลักษณ์เฉพาะตัว โดยที่ลูกค้าไม่เกี่ยงราคา
4. มีโอกาสหาลูกค้าตลาดบนได้สูง
อุปสรรค
1. ผลิตภัณฑ์ยังไม่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในประเทศจีน
2. เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ตอนนี้ไม่แน่นอน การใช้เงินต้องใช้เวลาตัดสินใจนา
3. กำลังการซื้อลดลง
4. ต้องใช้เทคโนโลยีช่วยในการบรรจุภัณฑ์
5. สินค้าบางอย่างต้องผลิตด้วยมือ ทำให้การผลิตบางครั้งไม่เพียงพอ
6. มีคู่แข็งในตลาดเพิ่มขึ้นตลอดเวลา

วันพฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

สุดยอดลูกชุบ

ลูกชุบสุพัตรา

มีสินค้าหลายอย่างในท้องตลาด ที่ผลิตออกมาเหมือนๆกัน และขายแข่งขันในตลาดเดียวกัน แต่สำหรับขนมลูกชุบ สุพัตรา สามารถฉีกตลาด ขึ้นไปจับตลาดบนได้สำเร็จ สามารถเพิ่มราคาขายจากที่ชาวบ้านทำขายลูกละ 1 บาท มาเป็นลูกละ 8 บาท

ใช้เครื่องปั้นลูกชุบ ที่พัฒนา โดย iTAP ในการผลิตเพื่อส่งออก ปรับรสชาติให้อ่อนหวาน เจาะตลาดต่างประเทศ
'ลูกชุบ' เป็นขนมไทยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะที่ต้องอาศัยทั้งศาสตร์และศิลป์ในการปรุงแต่งให้ขนมมีรสชาติที่กลมกล่อม สีสันสวยงาม ทำจากถั่วเขียว นิยมทำเป็นรูปผลไม้ชนิดต่างๆ  ปั้นเป็นลูกเล็กๆ พอคำ นิยมใช้ในงานพิธีมงคลต่างๆ และเหมาะที่จะเป็นของขวัญปีใหม่ ถือเป็นขนมไทยที่ขึ้นชื่อของไทยและมีการออกงานโชว์ต่างชาติมาแล้วมากมาย ปัจจุบัน ลูกชุบได้รับการตอบรับจากกลุ่มผู้บริโภคระดับพรีเมี่ยม และกำลังเป็นที่สนใจของตลาดต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น  ซึ่ง ‘ลูกชุบสุพัตรา’ ถือเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการขนมไทยที่ผลิตเฉพาะลูกชุบ ที่สามารถยกระดับลูกชุบให้เป็นที่ยอมรับของตลาดระดับบนได้
สุระ สูทกวาทิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท  ขนมไทย สุพัตรา จำกัด เจ้าของขนมลูกชุบภายใต้ชื่อสุพัตรา กล่าวว่า  การจะยกระดับลูกชุบจากลูกชุบธรรมดาขึ้นมาอยู่สู่ตลาดระดับบน และเป็นที่ยอมรับของกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมี่ยมได้นั้น จุดสำคัญอยู่ที่การนำเสนอรูปแบบที่แตกต่างที่จะสามารถสร้างมูลค่าให้กับลูกชุบได้  คือ  เรื่องของรสชาติและรูปลักษณ์ที่สะดุดตา
“ผู้บริโภคจะสะดุดตากับความสวยงามของรูปลักษณ์ภายนอก และเมื่อได้ทานก็จะยิ่งยอมรับในรสชาติ และสัมผัสได้ถึงความประณีตในการผลิต จุดนี้เองจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ขนมลูกชุบสุพัตราขึ้นมาเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค และถูกปากชาวต่างชาติที่ไม่นิยมทานขนมไทย เพราะปกติขนมไทยจะมีรสชาติหวาน ทำให้บางคนที่ทานหวานไม่ได้หรืองดของหวานจะไม่นิยมทาน เราจึงจับความต้องการเหล่านี้มาปรับสูตรปรุงรสชาติให้อ่อนหวานลง ทำให้รสชาติของลูกชุบสุพัตรามีความกลมกล่อมยิ่งขึ้น” สุระ กล่าว
สุระ เล่าถึงจุดเริ่มต้นของบริษัทฯ ว่า ก่อนหน้าที่จะมาทำลูกชุบขายเป็นอาชีพหลัก ตนเองประกอบธุรกิจส่วนตัวมาแล้วหลากหลาย และไม่เคยมองว่าขนมลูกชุบชิ้นละไม่กี่บาทจะสามารถเลี้ยงครอบครัวได้ แต่เมื่อธุรกิจของตนต้องประสบปัญหา  ประกอบกับในช่วงนั้น ภรรยา คือ คุณสุพัตรา เองมีฝีมือในการทำลูกชุบอยู่บ้างและเริ่มลองทำขายส่งตามห้างสรรพสินค้า ซึ่งปรากฎว่าขายได้ดี  ทำให้ตนหันมามองธุรกิจนี้อย่างจริงจังมากขึ้น  จึงได้ตัดสินใจเดินทางจากจังหวัดนครสวรรค์ เข้ามาประกอบอาชีพทำขนมลูกชุบขายที่กรุงเทพฯ เมื่อประมาณปี 2537
จากนั้นเขาและภรรยาได้ออกสำรวจหาสถานที่เพื่อจะทำเป็นหน้าร้านหลายแห่ง แต่ก็ยังไม่มีที่ใดเหมาะสม จึงคิดกันว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่ไม่ต้องมีหน้าร้าน  จึงตัดสินใจทำลูกชุบขึ้นมาประมาณ 500 ลูก แบ่งใส่กล่องๆละ 10 ลูก พร้อมติดสติกเกอร์ยี่ห้อ ‘ลูกชุบสุพัตรา’ และเบอร์โทรศัพท์ ให้ลูกน้องนำออกไปเดินแจกบริเวณอาคารสำนักงานต่างๆ ในย่านธุรกิจบนถนนสาทรและสุขุมวิทในช่วงเช้าเพื่อทดสอบตลาดแบบไม่ต้องมีหน้าร้าน ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของ ‘ลูกชุบสุพัตรา’ มาจนถึงปัจจุบันนี้
สุระ กล่าวว่า การทดลองหยั่งตลาดในลักษณะดังกล่าว เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่นับว่าได้ผลเกินคาดสำหรับขนมไทยเพียงชนิดเดียวอย่างลูกชุบ เพราะหลังจากที่ให้ลูกน้องเดินแจกจ่ายขนมในตอนเช้า ปรากฎว่าในช่วงบ่ายมีโทรศัพท์เข้ามาอย่างล้นหลาม และนับตั้งแต่วันนั้นก็มียอดสั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก แม้จะไม่มีหน้าร้านเป็นของตนเองแต่ลูกชุบสุพัตราก็เป็นที่รู้จักของลูกค้าโดยไม่ต้องแข่งขันด้านราคากับตลาดล่างตามที่ตั้งใจไว้
สำหรับจุดเด่นของขนมลูกชุบสุพัตรานั้น สุระ บอกว่า “บริษัทฯ เน้นความเอาใจใส่ และควบคุมด้านความสะอาดในการผลิตทุกขั้นตอน ทำให้กล้ารับประกันคุณภาพสินค้า เพราะเรามีการคัดเลือกแต่วัตถุดิบที่มีคุณภาพ และไม่มีการใส่สารกันบูดใดๆ นี่คือ ความแตกต่างของขนมไทยที่ยกระดับขึ้นสู่ตลาดพรีเมี่ยมได้อย่างน่าภูมิใจ ซึ่งทางบริษัทฯ ยังได้ตั้งเป้าไปสู่การทำตลาดต่างประเทศมากขึ้น เพื่อทำให้ขนมไทยเป็นที่รู้จักและออกสู่ตลาดโลกได้อย่างภาคภูมิ”
สุระ กล่าวอีกว่า แม้ลูกชุบสุพัตราจะมีราคาที่สูงกว่าลูกชุบทั่วไปที่วางจำหน่ายอยู่ แต่ก็ได้รับการยอมรับจากลูกค้าติดต่อเข้ามาจำนวนมาก ดังนั้น บริษัทฯ จึงได้พยายามหาทางเพิ่มศักยภาพการผลิตเพื่อให้สามารถรองรับกับปริมาณการผลิตทีละมากๆ ได้ในอนาคต บริษัทฯ จึงได้เข้ารับการสนับสนุนจาก โครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย (iTAP) ภายใต้ศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ในชื่อ “โครงการวิจัยและพัฒนาเครื่องปั้นลูกชุบโดย iTAP ได้จัดส่งผู้เชี่ยวชาญเข้าไปวิเคราะห์และประเมินกระบวนการผลิต พร้อมกับสนับสนุนด้านค่าใช้จ่ายในการว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญจากภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อพัฒนาเครื่องปั้นลูกชุบให้กับบริษัทฯ ร้อยละ 50 ของงบประมาณโครงการ ซึ่งเครื่องปั้นลูกชุบนี้จะใช้สำหรับการผลิตเพื่อส่งออกตลาดต่างประเทศที่ต้องผลิตในปริมาณมากๆ เท่านั้น ขณะที่ในประเทศยังเน้นฝีมือและความประณีตในการผลิตเหมือนเดิม
ปัจจุบัน ลูกชุบสุพัตรา มีวางจำหน่ายที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ อาทิ สยามพาราก้อน เดอะ มอลล์ บางสาขา และเอ็มโพเรียม โดยบรรจุภัณฑ์ส่วนใหญ่จะเน้นบรรจุภัณฑ์ที่ผู้บริโภคสามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้ใหม่ อาทิ กระจาด ซึ่งเป็นสินค้าโอท็อปมาจัดแต่งให้ดูสวยงามในหลากหลายขนาด สนนราคาชิ้นละ 2.50 บาท หากจัดเป็นชุดจะมีราคาตั้งแต่ 85 บาท ไปจนถึงราคา 1,000 บาท
นอกจากนี้ บริษัท ขนมไทย สุพัตรา จำกัด ยังได้รับรางวัลผู้ประกอบการขนมไทยดีเด่นประจำปี 2549 และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 จากการประกวดบรรจุภัณฑ์ขนมไทย ประจำปี 2549 ซึ่งการันตีถึงความใส่ใจในคุณภาพของบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี
บริษัท ขนมไทย สุพัตรา จำกัด

http://www.komchadluek.net/


123 สุขุมวิท 95/1 บางจาก พระโขนง กรุงเทพมหานคร
โทรศัพท์ 0 2332-1159, 0 2740-3500
โทรสาร 0 2331-553